ความสำเร็จในครั้งนี้ เป็นความร่วมมือของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ และสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม รวมถึงทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งก้าวต่อไปนับจากนี้ รัฐบาลจะนำผลการจัดอันดับดังกล่าวไปออกแบบนโยบาย เพื่อรองรับประเทศไปสู่การเปลี่ยนผ่านเป็นสังคมเศรษฐกิจดิจิทัลที่สร้างประโยชน์ให้กับทุกภาคส่วน รวมถึงพัฒนากฎระเบียบ แพลตฟอร์ม ให้รองรับ e-Commerce และระบบต่าง ๆ รองรับธุรกรรม e-Commerce ผลักดันสินค้าชุมชนเข้าสู่ตลาดออนไลน์ ตลอดจนสร้างการเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัลและอินเทอร์เน็ต ซึ่งจะช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นและความไว้วางใจให้กับผู้ประกอบการและประชาชน ในการก้าวเข้าสู่ e-Commerce อย่างสมบูรณ์
“นายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่าประเทศไทยเดินหน้ามาถูกทางแล้ว และมีทิศทางการพัฒนา e-Commerce ที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน พร้อมแสดงความมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าในปีหน้าประเทศไทยจะได้รับคะแนนที่ดีขึ้นทั้งในเชิงมูลค่าและประสิทธิภาพของ e-Commerce ซึ่งจะทำให้การจัดอันดับของประเทศไทยก้าวขึ้นเป็นอันดับสองของอาเซียนได้ไม่ไกลเกินฝัน” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรียังกล่าวด้วยว่า จากการจัดอันดับของประเทศไทย พบว่า ประเทศไทยโดดเด่นในด้านความเชื่อมั่นการขนส่งไปรษณีย์ (Postal Reliability Index) โดยได้คะแนนสูงถึง 97 คะแนน เท่ากับคะแนนของสวิตเซอร์แลนด์ที่ได้รับการจัดอันดับว่าเป็นประเทศที่มีความพร้อมทาง e-Commerce สูงสุดเป็นอันดับหนึ่ง นอกจากนี้ ประเทศไทยยังโดดเด่นในด้านจำนวนการเปิดบัญชีธนาคาร หรือมีบัญชีธุรกรรมทางการเงินผ่านโทรศัพท์มือถือ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญพื้นฐานของการเติบโตของ e-Commerce ด้วย
ข้อมูลจาก : ThaiPost
0 ความคิดเห็น